ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร แล้วใครบ้างต้องเสีย ?
ถ้าพูดถึง ภาษีธุรกิจเฉพาะ หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักนะครับ ว่ามันคืออะไร คร่าวๆก็คือเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเวลาโอนบ้าน ซึ่งเจ้าภาษีตัวนี้ก็เป็นอะไรที่ชวนงงเหมือนกันครับ เพราะเสียบ้างไม่เสียบ้างแล้วแต่เคส และราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ ต้องเสียมากถึง 3.3% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมิน(ขึ้นกับว่าอะไรแพงกว่ากัน) เนื้อหาต่อจากนี้เราจะมาดูกันว่า เมื่อไหร่ที่จะต้องจ่ายเจ้าภาษีตัวนี้
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร
ภาษีตัวนี้คือภาษีที่กรมสรรพากรเรียกเก็บจากธุกิจเฉพาะ ได้แก่ การธนาคาร, ธุรกิจเงินทุน, ธุรกิจหลักทรัพย์, ประกันชีวิต, การจำนำ และรวมถึง การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ซึ่งข้อสุดท้ายที่ผมทำตัวหนาไว้นี่แหละ เป็นตัวรัฐสามารถจะมาเก็บเราในกรณีที่รัฐเห็นว่าเรานั้นทำการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อแสวงหากำไร ไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย
เงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ซึ่งเงื่อนไขสั้นๆง่ายๆคือ ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี แล้วค่อยนำไปขาย ถึงจะได้รับการยกเว้น ภาษีธุรกิจเฉพาะ ยกเว้นกรณีต่อไปนี้ที่ขายก่อน 5 ปีได้
- การขายอสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1ปี นับตั้งแต่วันที๋โอนกรรมสิทธิ์
- การขายโดยการถูกเวนคืนตามกฏหมาย
- การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมรดกมา
- การโอนที่ดินให้บุตรตามกฏหมาย(ไม่นับบุตรบุญธรรม) หรือทายาทตามพินัยกรรม
- การโอนที่ดินให้ส่วนราชการ หรือรัฐบาลโดยไม่มีค่าตอบแทน
การคิดค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะจะอยู่ที่ 3.3% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมิณ(ขึ้นกับว่าอะไรแพงกว่ากัน) เช่น ซื้อ-ขายบ้านกันในราคา 1 ล้านบาท ราคาประเมิณอยู่ที่ 8 แสนบาท เพราะฉะนั้นภาษีที่ต้องจ่ายคือ 3.3% ของราคา 1 ล้านบาท หรือก็คือ 33,000 บาทนั่นเองครับ
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- การขายฝาก ถือเป็นการขายอย่างหนึ่ง เพราะมีการโอมกรรมสิทธิ์ หากอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ต้องเสียด้วยเหมือนกันนะครับ
- นอกจากภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว การโอนบ้านที่ดิน ยังต้องเสียภาษีอื่นๆอีก
- การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ไม่ต้องนำรายรับมาคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินในการคำนวนภาษี